อัญชัน ภาษาอังกฤษ : Butterfly
pea. หรือ Blue pea. ส่วนดอกอัญชัน ชื่อวิทยาศาสตร์ : Clitoria ternatea
L.สำหรับชื่อพื้นเมืองอื่นๆ เช่น แดงชัน(เชียงใหม่) , เอื้องชัน(ภาคเหนือ)
เป็นต้นเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ปลูกทั่วไปในเขตร้อน
ลักษณะของดอกอัญชันจะมีสีขาว สีฟ้า สีม่วง ส่วนตรงกลางดอกจะมีสีเหลือง
และรูปทรงคล้ายหอยเชลล์
อัญชัน มีสรรพคุณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เพราะมีสารที่ชื่อว่า “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีมากขึ้น เช่น ไปเลี้ยงบริเวณรากผม
ซึ่งช่วยทำให้ผมดกดำ เงางาม หรือไปเลี้ยงบริเวณดวงตาจึงช่วยบำรุงสายตาไปด้วยในตัว
หรือไปเลี้ยงบริเวณปลายนิ้วมือ ซึ่งก็จะช่วยแก้อาการเหน็บชาได้ด้วย
และที่สำคัญสารนี้ยังมีความโดดเด่นที่ใครหลายๆคนยังไม่ทราบนั้นก็คือ
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้และการ “กินดอกอัญชันทุกวัน…วันละหนึ่งดอก” จะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบได้อีกด้วย
เนื่องจากดอกอัญชันนั้นมีในการฤทธิ์ละลายลิ่มเลือด สำหรับผู้มีเลือดจางห้ามรับประทานดอกอัญชันเด็ดขาด
หรืออาหารเครื่องดื่มที่ย้อมสีด้วยอัญชันก็ไม่ควรรับประทานบ่อยๆ
สรรพคุณอัญชัน
น้ำอัญชันมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
เครื่องดื่มน้ำอัญชันช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
ประโยชน์ของดอกอัญชัน มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง
เพิ่มการไหลเวียนเลือด
ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด
ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ
ช่วยรักษาอาการผมร่วง (ดอก)
อัญชันทาคิ้ว ทาหัว
ใช้เป็นยาปลูกผม ปลูกขนช่วยให้ดกเดาเงางามยิ่งขึ้น (น้ำคั้นจากดอก)
ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
อัญชันมีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง
ตาแฉะ (น้ำคั้นจากดอกสดและใบสด)
ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ต้อหิน
ตามเสื่อมจากโรคเบาหวาน (ดอก)
ช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น
นำรากไปถูกับน้ำฝน
นำมาใช้หยอดตาและหู (ราก)
นำมาถูฟันแก้อาการปวดฟัน
และทำให้ฟันแข็งแรง (ราก)
ใช้เป็นยาระบาย
แต่อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ (เมล็ด)
ใช้รากปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
แก้อาการปัสสาวะพิการ
สรรพคุณอัญชันใช้แก้อาการฟกช้ำ
(ดอก)
ช่วยป้องกันและแก้อาการเหน็บชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า
นำมาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำอัญชันเพื่อใช้ดับกระหาย
ดอกอัญชันตากแห้งสามารถนำมาชงดื่มแทนน้ำชาได้เหมือนกัน
ดอกอัญชันนำมารับประทานเป็นผักก็ได้
เช่น นำมาจิ้มน้ำพริกสดๆ
หรือนำมาชุบแป้งทอดก็ได้
น้ำดอกอัญชันนำมาใช้ทำเป็นสีผสมอาหารโดยให้สีม่วง
เช่น ขนมดอกอัญชัน ข้าวดอกอัญชัน (ดอก)
ช่วยปลูกผมทำให้ผมดกดำขึ้น (ดอก)
ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
อย่าง ครีมนวดผม ยาสระผม เป็นต้น
ประโยชน์ของอัญชันข้อสุดท้ายคือนิยมนำมาปลูกไว้ตามรั้วบ้านเพื่อความสวยงาม
วิธีทำน้ำดอกอัญชัน
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม มีดังนี้
น้ำดอกอัญชัน 1 ถ้วย / น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ / น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนแรกให้ทำน้ำดอกอัญชันก่อน
ด้วยการนำดอกอัญชันสดประมาณ 100 กรัม นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วใส่หม้อเติมน้ำเปล่า
2 ถ้วยนำไปต้มจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีแล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อ
ต่อมาก็ทำน้ำเชื่อม โดยใช้สัดส่วน
น้ำเปล่า 500 กรัม / น้ำตาลทราย 500 กรัม
เมื่อได้ส่วนผสมครบแล้วให้นำน้ำดอกอัญชัน
น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง ผสมรวมกันตามสัดส่วนที่ระบุไว้ในข้อแรก
ชิมรสชาติตามชอบใจ
เสร็จแล้วน้ำดอกอัญชัน
ถ้าหากจะทำเป็นน้ำพันซ์ให้ใช้ส่วนผสมดังนี้
น้ำดอกอัญชันครึ่งถ้วย / น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ / น้ำเชื่อม 6 ช้อนโต๊ะ /
น้ำมะนาวครึ่งถ้วย / และน้ำโซดาเย็นประมาณ 1 ขวด แล้วนำมาผสมรวมกันชิมรสชาติจนเป็นที่พอใจแล้วใส่น้ำแข็งเกล็ดเพื่อความสดชื่นอีกที
ถ้าต้องการทำเป็นน้ำชาไว้ดื่ม
ก็ใช้ดอกอัญชันที่ตากแห้งแล้ว ประมาณ 25 ดอก นำมาชงในน้ำเดือด 1 ถ้วยแล้วนำมาดื่ม
หรือจะใช้อีกสูตร ก็คือให้เตรียม
ดอกอัญชัน 3 ดอก / น้ำเปล่า 1 แก้ว / น้ำตาลทราย (ตามความต้องการ) / น้ำมะนาว (ตามความต้องการ)
นำดอกมาเด็ดก้านเขียวๆออกๆ
แล้วนำไปล้างให้สะอาด
ต้มน้ำแล้วใส่ดอกอัญชันลงไป รอจนเดือด
จนน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดอก
ใส่น้ำตาลลงไปตามใจชอบ
เสร็จกรองเอากากออก
แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
นำมาปรุงรสนิดหน่อยด้วยการมะนาวตามความต้องการ
(สีของน้ำจากสีฟ้าก็จะกลายเป็นสีม่วง)
นำมาดื่มพร้อมใส่น้ำแข็ง
เย็นชื่นใจจุงกะเบย
คำแนะนำ
ควรดื่มทันทีเมื่อทำเสร็จ
เพื่อรักษาคุณทางสารอาหารและยา
ไม่ควรดื่มน้ำสมุนไพรในอุณหภูมิที่ร้อนจัด
หรือมีอุณหภูมิเกิน 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป
เพราะอาจจะทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหารเสียสภาพภูมิคุ้มกันได้
ทำให้ดูดซับสารก่อมะเร็งและสารอื่นๆได้ง่าย
ไม่ควรดื่มน้ำสมุนไพรใดๆชนิดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานาน
ซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย
สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ปรับปรุงเนื้อหาครั้งล่าสุด
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2013 เวลา 14:06 น.
No comments:
Post a Comment