Wednesday, February 26, 2014

สตอเบอรี่





สตรอเบอร์รี่ (Strawberry) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fragaria × ananassa Duchesne เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ มีมากกว่า 20 สปีชีส์และมีลูกผสมอีกมากมาย ผลสดของสตรอเบอร์รี่มีรสชาติหลากหลายตั้งแต่เปรี้ยวไปจนถึงรสหวานจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก โดยสตรอเบอร์รี่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็คือ สตรอเบอร์รี่สวน
สตรอเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เคอซิติน (Quercetin) เคมเพอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งสารก่อมะเร็งต่างๆ ได้ และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง โดยสตรอเบอร์รี่สดประมาณ 100 กรัม จะมีวิตามินมากถึง 58 มิลลิกรัม !!
ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระพบว่า สตรอเบอร์รี่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง / มากกว่า องุ่นแดง 2 เท่า / มากกว่า กีวี 3 เท่า / มากกว่า มะเขือเทศ 7 เท่า / มากกว่า กล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่า ลูกแพร ถึง 15 เท่า !!
สตรอเบอร์รี่ยิ่งสดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเท่านั้น ถ้ารับประทานทันทีได้ก็จะดีมาก (ล้างก่อนนะ) หรือไม่ก็ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และการรับประทานสตรอเบอร์รี่แบบสดๆ จะทำให้ได้รับสารอาหารจากสตรอเบอร์รี่มากที่สุด!
คุณค่าทางโภชนาการของสตรอเบอร์รี่ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 33 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 7.68 กรัม
น้ำตาล 4.89 กรัม
เส้นใย 2 กรัม
ไขมัน 0.3
โปรตีน 0.67 กรัม
วิตามินบี1 0.024 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี2 0.022 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี3 0.386 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี6 0.047 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี9 24 ไมโครกรัม 6%
โคลีน 5.7 มิลลิกรัม 1%
วิตามินซี 58.8 มิลลิกรัม 71%
เค้กสตรอเบอร์รี่
วิตามินอี 0.29 มิลลิกรัม 2%
วิตามินเค 2.2 ไมโครกรัม 2%
ธาตุแคลเซียม 16 มิลลิกรัม 2%
ธาตุเหล็ก 0.41 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม 4%
ธาตุแมงกานีส 0.386 มิลลิกรัม 18%
ธาตุฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม 3%
ธาตุโพแทสเซียม 153 มิลลิกรัม 3%
ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.14 มิลลิกรัม 1%
ฟลูออไรด์ 4.4 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
ประโยชน์ของสตรอเบอร์รี่




สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วย สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน เพราะมีพลังงานต่ำ
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย
ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี
มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง
ช่วยเพิ่มปริมาณ ไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาดปราศจากคราบไขมัน
ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งอย่าง ไนโตรซามีน (Nitrosamines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคมะเร็งละไส้
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วย ซุปเปอร์ไฟเบอร์เพคติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้
มีส่วนช่วยบำรุงโลหิต
ช่วยลดความดันโลหิต
มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์สมองพิการได้ (กรดโฟลิก)
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยปรับสมดุลของนัยน์ตาให้เป็นปกติ และป้องกันโรคต้อกระจก โรคตาบอดตอนกลางคืน การรับประทานสตรอเบอร์รี่เป็นประจำจึงช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ถึง 50%
การดื่มน้ำสตรอเบอร์รี่จะช่วยบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้
ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
มีสรรพคุณทางยาเป็นยาระบายอ่อนๆ
ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ด้วยการรับประทานผลสดครั้งละ 5 ผล
มีส่วนช่วยรักษาโรคนิ่วในไต
ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)
ช่วยแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ (ด้วยการใช้ใบและราก(ด้วยการใช้เหล้าไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอเบอร์รี่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง นำมาต้มน้ำให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ)ตากแห้ง นำมาชงกับน้ำเดือด แล้วดื่มแทนชา และใช้รากสตรอเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเดือด 1 กาขนาดกลาง)
ช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
ช่วยป้องกันโรคเกาต์
ช่วยระงับกลิ่นปากได้ดี ทำให้ลมหายใจสดชื่น (ใช้ใบสดนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก)
ช่วยแก้อาการเจ็บคอ รักษาแผลในช่องปาก (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง (ด้วยการใช้ใบสดสตรอเบอร์รี่นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำน้ำมาใช้กลั้วคอ)
ใบสดนำมาโขลกแล้วนำไปประคบตามร่างกายช่วยลดอาการอักเสบบวมช้ำได้เป็นอย่างดี
ใบสตรอเบอร์รี่นำมาซ้อนกันหลายๆใบ ใช้ประคบแก้รอยช้ำบวมตามร่างกาย
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบางๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผลผสมกับน้ำมะนาวแล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดและปรับสภาพผิวและลดการอุดตันของรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาดเงางาม ด้วยการใช้ใบสตรอเบอร์รี่และรากที่ตากแห้วมาใส่โถปั่นจนเป็นผง แล้วนำมาใช้แทนยาสีฟัน
มีการนำไปแปรรูปอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่เชื่อม น้ำสตรอเบอร์รี่ แยมสตรอเบอร์รี่ ไวน์สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่อบแห้ง เค้กสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง : www.cm-fruit.com , http://en.wikipedia.org/wiki/Strawberry

ปรับปรุงเนื้อหาครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2013 เวลา 15:59 น.

No comments:

Post a Comment